วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ไรแดง ใน สวนมะนาว

ไรแดง ใน สวนมะนาว

ไรแดง นั้นเป็นศัตรูที่สำคัญอย่างหนึ่งของมะนาว ทั้งตัวอ่อนและตัวแก่จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากมะนาวโดยดูดจากใบ ยอดอ่อน มักพบระบาดในฤดูแล้งเมื่อเอามือลูบใบดูจะเห็นว่ามีสีแดงติดมือ ผลมะนาวที่ถูกไรแดงดูดจะมีสีน้ำเงิน ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแล้วร่วงไปในที่สุด ใบที่ถูกทำลายจะหงิกงอ

ตัวเต็มวัยของไรแดงมีสีแดงเข้ม มีขนสีขาวออกมาตามปุ่มของลำตัว 20 เส้น ลำตัวเป็นรูปไข่ โค้งนูนเล็กน้อย ตัวแก่มีอายุประมาณ 5-8 วัน

การป้องกันกำจัด

1. พ่นด้วยกำมะถันผง ชนิดละลายน้ำ ในอัตรา 4 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร ควรพ่นในเวลาเช้าเพื่อป้องกันใบไหม้

2. ฉีดพ่นยากันไรก่อนฝนทิ้งช่วง หรือช่วงที่ตรวจพบมีไรระบาดโดยสารเคมีในกลุ่มไดโคโฟลฉีดพ่น

มีอยู่ 4 ชนิดคือ

1.  ไรแดงแอฟริกัน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eutetranychus africanus (Tucker) จัดอยู่ในวงศ์ Tetranychidae จะพบทำลายใบผลส้ม

2.  ไรเหลืองส้ม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eotetranychus cendanai Rimando อยู่ในวงศ์ Tetranychidae ซึ่งจะพบทำลายใบและผลส้มเช่นเดียวกับไรแดงแอฟริกัน

3.  ไรขาวพริก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Polyphagotarsonemus latus (Banks) อยู่ในวงศ์ Tarsonemidae พบทำลายใบอ่อนและผลอ่อน มักพบทำลายค่อนข้างรุนแรงกับส้มโอ

4. ไรสี่ขา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Aceria mangiferae (Sayed) จัดอยู่ในวงศ์ Eriophyidae โดยจะเข้าทำลายตาดอก ตาใบของมะม่วง จึงมีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า “บัดไม้ท์” (Bud mite)

ชีวประวัติและอุปนิสัย

ไรแดงชนิดนี้มีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า African red mite และมีชื่อสามัญภาษาไทยที่ใช้เรียกกันทั่วไปว่า ไรแดงแอฟริกัน มีรูปร่างดังนี้

เพศเมีย ลำตัวกลมแบนมีสีแดงเข้มหรือน้ำตาลเกือบดำ ขนบนลำตัวด้านหลังสั้นคล้ายกระบอง ขาทั้ง 4 คู่ มีสีเหลืองอ่อน จะอยู่นิ่งกับที่ ความยาวของลำตัวประมาณ 0.3-0.4 มิลลิเมตร และกว้างประมาณ 0.3 มิลลิเมตร
เพศผู้ ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน ขนาดเล็กกว่าเพศเมีย ด้านหน้าของลำตัวกว้างและค่อยๆ เรียวแคบเล็กลงทางด้านท้าย ก้นแหลมและขายาวจะเคลื่อนที่ตลอดเวลา ความยาวของลำตัวเฉลี่ย 0.25 มิลลิเมตร และกว้าง 0.17 มิลลิเมตร
การผสมพันธุ์เริ่มเมื่อเพศผู้ได้ลอกคราบแล้วจะเดินไปเรื่อย ๆ เมื่อพบตัวอ่อนระยะที่ 3 พักตัวก็จะหยุดนิ่งและคอยเฝ้า เมื่อตัวอ่อนลอกคราบเพศผู้จะช่วยดึงคราบจนกระทั่งออกเป็นตัวเต็มวัยเพศเมีย เพศผู้จะเข้าผสมพันธุ์ทันที หลังจากนั้น 1-2 วัน เพศเมียจะวางไข่

วงจรชีวิตของไรแดงแอฟริกันที่เจริญเติบโตบนส้มเขียวหวาน จากระยะไข่จนกระทั่งเป็นตัวเต็มวัยใช้เวลานานเฉลี่ย 9.4 วัน เพศเมีย 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ตลอดชั่วอายุขัยเฉลี่ย 12.7 ฟอง และมีชีวิตอยู่ได้นาน 9.8 วัน
สำหรับไรแดงแอฟริกันที่เจริญเติบโตบนทุเรียน  จากระยะไข่เจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยใช้เวลานาน 9.1-9.3 วัน โดยมีระยะไข่เฉลี่ย 4.5 วัน ตัวอ่อนมี 3 ระยะ ตัวเต็มวัยเพศเมีย 1 ตัว วางไข่ได้ประมาณ 7-14 ฟอง โดยลูกที่ฟักออกมาจากไข่ที่ไม่ได้รับการผสมจะเจริญเป็นไรเพศผู้ทั้งหมด ขณะที่ลูกที่ฟักออกมาจากไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์จะมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย

การแพร่กระจาย และฤดูกาลระบาด

ในแหล่งปลูกส้มทั่วไปพบไรแดงแอฟริกันระบาดปริมาณสูงในฤดูแล้งระหว่างเดือนธันวาคม-พฤษภาคมและในฤดูฝนที่ฝนไม่ตกติดต่อกันเป็นเวลานาน

จากการสำรวจและติดตามการผันแปรประชากรของไรแดงแอฟริกันในสวนทุเรียนที่ จ.จันทบุรี  พบว่าประชากรไรแดงจะเริ่มมีปริมาณสูงในเดือนกันยายน-ตุลาคม  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ  เมื่อผ่านพ้นฤดูฝนในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมไปแล้ว ความชื้นในอากาศจะเริ่มแห้งลง และมีลมหนาวซึ่งพัดกรรโชกมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือพบว่า  ทันทีที่ฝนหยุดตกและอากาศแห้งลงเมื่อใด ไรแดงแอฟริกันจะเพิ่มประชากรขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว  จะพบไรแดงสูงที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จากนั้นไรแดงจะค่อย ๆ ลดลง ปริมาณอาจสูงขึ้นอีกในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน  ซึ่งแล้งจัด และมีน้อยมาก ในช่วงฤดูฝน  ซึ่งเป็นลักษณะของไรแดงทั่วๆ ไป ที่จะถูกควบคุมประชากรโดยปริมาณน้ำฝน  ดังนั้นการพยากรณ์การระบาดของไรแดงในสวนทุเรียนจึงสามารถดูได้จากปริมาณน้ำฝนช่วงปลายฤดูเป็นหลัก เมื่อใดที่ฝนเริ่มทิ้งช่วง อากาศแห้งแล้งและมีลมพัดแรง  ให้รีบทำการสำรวจไรแดงดังได้กล่าวมาแล้ว และป้องกันกำจัดทันที  ไรชนิดนี้นอกจากพบระบาดในแหล่งปลูกทุเรียน จ.จันทบุรี ยังพบแพร่กระจายในสวนทุเรียน จ.ระยอง ตราด ปราจีนบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี แพร่ และอุตรดิตถ์

พืชอาศัย

พืชอาศัยของไรแดงแอฟริกันมีดังนี้

ไม้ผล เช่น ส้มเขียวหวาน ส้มโอ มะนาว มะกรูด ส้มจีน มะละกอ ขนุน สาเก ท้อ มะกอกฝรั่ง เป็นต้น

พืชผัก เช่น ขี้เหล็ก มะรุม ถั่วพู ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา แตงโม ตำลึง ผักบุ้ง เป็นต้น

พืชไร่ เช่น ฝ้าย ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง ละหุ่ง เป็นต้น

ไม้ดอกไม้ประดับ เช่น ฝ้ายดำ ลั่นทม กุหลาบ บานชื่น ชะบา แคฝรั่ง เป็นต้น

ศัตรูธรรมชาติ

จากการสำรวจศัตรูธรรมชาติของไรแดงแอฟริกัน พบศัตรูธรรมชาติที่สำคัญ 3 จำพวก คือ ไรตัวห้ำ (predaceous mite) แมงมุมและเชื้อรา (Hirsutella thompsoni Fisher) สำหรับไรตัวห้ำที่มีอยู่ในธรรมชาติ  ส่วนใหญ่อยู่ในวงศ์ Phytoseiidae ในต่างประเทศมีรายงานถึงบทบาทและความสำเร็จในการนำไรตัวห้ำชนิดนี้มาใช้ในการควบคุมไรศัตรูพืชที่สำคัญอย่างกว้างขวาง  ในประเทศไทยได้มีการศึกษาวิจัยประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานของไรตัวห้ำในวงศ์นี้เช่นกันพบว่ามีแนวโน้มสามารถนำไปใช้ในการควบคุมไรแดงแอฟริกันได้ คือ ไรตัวห้ำมีชื่อว่า Amblyseius longispinosus (Evans) เนื่องจากมีการเจริญเติบโตรวดเร็วมาก อายุขัยยืนยาวและเพิ่มประชากรได้รวดเร็ว

การป้องกันกำจัด

การป้องกันกำจัดไรแดงแอฟริกันในสวนส้ม ควรปฏิบัติดังนี้

1.  หมั่นสำรวจแปลงส้มอยู่เป็นประจำทุก 2 สัปดาห์  ในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมและในช่วงฤดูฝนที่ฝนทิ้งช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม

2.  เมื่อพบไรแดงเริ่มลงทำลายส้ม  ให้ทำการป้องกันกำจัดโดยวิธีกลด้วยการให้น้ำติดต่อกันหลาย ๆ ครั้ง

3.  เมื่อพบไรแดงระบาดมาก จากการสังเกตเห็นใบเริ่มมีสีเขียวจางลง และเมื่อส่องดูด้วยแว่นขยายขนาด 10 เท่า จะพบไรแดงดูดกินอยู่ทั่วไปบนใบ ให้ทำการป้องกันกำจัดโดยวิธีการใช้สารเคมี  ด้วยการเลือกพ่นสารเคมีที่มีคุณสมบัติเป็นสารกำจัดไรชนิดใดชนิดหนึ่งดังต่อไปนี้

1)  โปรพาร์ไจท์ (โอไม้ท์ 30℅ ดับบลิว พี) อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

2)  เฮ็กซีไธอะซอคซ์ (นิสโซรัน 20℅ เอสซี) อัตรา 40 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร

3)  อะมีแทรซ (ไมแทค 20℅ อีซี) อัตรา 30 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร

4)   โบรโมโพรพีเลท (นีโอรอน 250 25℅ อีซี) อัตรา 30 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร สารกำจัดไรเหล่านี้ค่อยข้างปลอดภัยต่อตัวห้ำ ตัวเบียน ผึ้ง และผู้ใช้ควรพ่นสารกำจัดไรดังกล่าว สลับกันเพื่อป้องกันไรแดงสร้างความต้านทาน  ถ้าพบว่ายังมีไรแดงระบาดอยู่ ให้พ่นสารกำจัดไรซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โดยเว้นระยะห่าง 5 วัน



การป้องกันกำจัดไรแดงแอฟริกันในสวนทุเรียน มีแนวทางดังนี้

1.  กำจัดวัชพืชในสวนทุเรียน ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งหลบซ่อนของไรแดงแอฟริกัน

2.  หลีกเลี่ยงการปลูกพืชอาศัยของไรแดงแอฟริกันในสวนทุเรียนหรือบริเวณใกล้เคียง  ถ้าเกษตรกรมีรายได้จากพืชเหล่านั้น เช่น ส้ม มะละกอ หรือพืชตระกูลถั่ว ก็ควรป้องกันกำจัดไรแดงชนิดนี้บนพืชอาศัยนั้นด้วย

3.  หมั่นสำรวจดูไรแดงบนใบทุเรียนเป็นประจำ และควรเน้นหนักในช่วงปลายฤดูฝน(เดือนกันยายน-ตุลาคม)และฤดูแล้ง

4.  สารไรที่มีประสิทธิภาพในการใช้ควบคุมปริมาณไรแดงแอฟริกันในสวนทุเรียน ได้แก่ โปรพาร์ไจท์ (โอไม้ท์ 30℅ ดับบลิว พี) อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารเฮกซี่ไธอะซอคซ์ (นิสโซรัน 20℅ เอสซี) อัตรา 40 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารอะมีแทรซ (ไมแทค 20℅ อีซี) อัตรา 30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร การพ่อนสารไรไม่ควรใช้สารชนิดเดียวกันติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรมีการสลับชนิดเพื่อป้องกันไรเกิดความต้านทาน เช่นเดียวกับวิธีการใช้สารกำจัดไรป้องกันกำจัดไรแดงแอฟริกันในสวนส้ม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น