วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ใช้ Killer B ทุก 7 วัน ป้องกัน โรค และ บำรุงใบ ขยายขนาดผล

ยา Killer B เป็นสารชีวภาพ ที่เป็น แบคทีเรีย สกัด จาก ขนมถั่วเน่า ใช้

กำจัด+ป้องกัน โรคแคงเกอร์ รากเน่าโคนเน่า และ ราสนิม ในพืชทุกชนิด





ปลอดภัย  ปลอดสารเคมี 100% ชนิดว่า นำ Killer B มาผสม นมดื่มกินได้

การใช้ Killer B ต้องหมักกับแลคตาซอย ก่อนใช้งาน อย่างน้อย 3 วัน





เวลาใช้ ให้แบ่ง   Killer B  ที่หมักแล้ว  100 มล. ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว

กรณี ต้องการพ่น Killer B ในสวนขนาดใหญ่ ให้ ใช้ แลคตาซอย 1 ลิตร ( สีฟ้า )

ผสม Killer B 1 ซองเล็ก หมักนาน 10 วัน โดยเติมน้ำตาล ทุก 2 วัน




ให้แบ่ง  Killer B  ที่หมักแล้วมา   200 มล. ผสมน้ำ 200 ลิตร

การให้ Killer B  ทุก 7 วัน จะมี ประโยชน์ดังนี้

1 ป้องกันโรค แคงเกอร์ รากเน่า ราสนิม
2 ใบ ไม้ผล มีขนาดใหญ่ขึ้น
3 ผล มี ขนาดใหญ่ ขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

กำจัดเพลี้ย ผีเสื้อ แมลง โดยไม่ใช้สารพิษ ภาคเชื้อรา บิวเวอเรีย

เชื้อรา บิวเวอเรีย  มี ประโยชน์ มาก สามารถ ฆ่าแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด

เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรขาว หนอนผีเสื้อ
หนอนห่อใบ  แมลงค่อมทอง ไรแดง ไรสนิม เห็บหมา แมลงหวี่ขาว ตายเรียบ

ราบิวเวอเรีย มี ชื่อ วิทยาศาสตร์คือ  Beauveria  bassiana




การใช้ ราบิววาเรียปราบแมลงศัตรูพืช

  1. ผงบิววาเรีย 50 กรัม ผสม น้ำ 20 ลิตร ทิ้งไว้ 60 นาที
  2. นำไป ฉีดพ่น ให้ทั่ว ต้นพืช
  3. ฉีดซ้ำ ทุก 5 ถึง 7 วัน จนแมลงศัตรูพืชตาย
  4. กระต้น ด้วยการพ่น บิวเวอเรีย ซ้ำ ทุก ๆ 1 เดือน
  5. ควรพ่นน้ำให้ ต้นไม้ ได้ความชื้น เป็นประจำ



ราบิวเวอเรีย จะ เข้าไป เจริญเติบโต ใน หนอน แมลง  และ แทงเส้นใยออกมา เป็นเส้นใยสีขาว
ทำให้แมลงตายในที่สุด   การใช้ ราบิวเวอเรีย ช่วยลดการใช้สารพิษฆ่าแมลง และลดต้นทุน
ให้กับเกษตรกร ได้ดีนักแล  โดยต้องหาซื้อ หัวเชื้อราบิวเวอเรีย มา แล้ว นำไปขยายเชื้อ โดยที่
ผงบิวเวอเรีย 40 กรัม สามารถ ขยายเป็น 1000 กรัมได้ โดยใช้ข้าวสวย การ ชมวีดีโอ





วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ขยายเชื้อ บีที ฆ่าหนอน ได้ ปลอดภัย ต่อมนุษย์

อยากลดต้นทุน ในการฆ่าหนอน ในผัก ผลไม้ เราทำเองได้ โดยใช้

เชื้อ แบคทีเรีย บีที BT ชื่อวิทยาศาสตร์  Bacillus thuringiensis





แบคทีเรีย ตัวนี้ฆ่าหนอน ได้ดีมาก ปลอดภัย ต่อ เกษตรกร

และผู้บริโภค  แบคทีเรีย บีที มีราคาแพงพอสมควร ตกกิโลกรัม

ละ มากกว่า 1000 บาท  แต่ช้าก่อน  เราซื้อ หัวเชื้อมา  สามารถ

นำมาขยายเชื้อ ได้อีก 1000 เท่า โดยไม่ยากเลย สักนิด เริ่มจาก





นำหัวเชื้อ แบคทีเรีย บีที BT 2 ช้อนโต๊ะ ผสม แป้งมันฝรั่ง 500 กรัม

+ แลคตาซอย 500 มิลลิลิตร  + น้ำต้มเดือดที่เย็นแล้ว 250  มิลลิลิตร

หมักทิ้งไว้ 4 วัน โดยเปิดฝา จนมีการแยกชั้น ออกเป็น น้ำ กับ นม

นำมาผสม กับ แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม  พึ่งให้พอแห้ง แล้ว นำไป



ตากแดด สองวัน  บดให้ละเอียด แล้ว นำไปใช้ได้ เลย  โดยผสม

ผงเชื้อ บีที กับ น้ำสะอาด ตอนเช้า แล้ว พ่นให้ทั่วไป พืช ตอนเย็น

ปลอดภัย ประหยัด  มันดี ต่อใจ ครับ

วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ปลูกพืชเสริม หลัง ปลูกมะนาวอยู่ตัว


เมื่อคุณปลูกมะนาว ได้ มีฝีมือระดับ หนึ่ง แล้ว คุณควร

ฝึกฝนตนเอง โดย อาจปลูก เริ่มปลูกพืชเสริม สัก 2 ชนิด โดย

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ไม้ผล   กับ พืชผัก  เลือกที่ไม่ยากไป





เช่น  ผมเอง อาจเลือก ปลูกมะกรูดตัดใบ  หรือ คะน้า  ใน หมวดพืชผัก

กับ ปลูกไม้ผล คือ กล้วยหอม  และ มะเดื่อฝรั่ง ที่ผม ชื่นชอบ

การทำแบบนี้ เป็นการกระจาย ความเสี่ยง ในราคา ผลผลิตทางการเกษตร

ที่ราคามีขึ้นมีลง มะกรูด การดูแล คล้ายมะนาว และไม่ยากเลย มีรายได้เร็ว





ส่วน คะน้า เป็นผัก ปลูกไม่นาน ใช้เวลา สั้น หาก คะน้าเราผลิตได้ดี

ใบงาม ก้านสวย ไม่มีสารพิษตกค้าง รับรองขายดี ระเบิด รวยแน่นอน

ส่วน กล้วยหอม ผมชอบกินมาก ตลาดกับเติบโต อีกไกล เพราะมีขาย 7-11





สำหรับ มะเดื่อฝรั่ง หวาน หอม อร่อย ปลูกดูแลง่าย  GI ต่ำ คนอ้วน

ผู้ป่วยเบาหวานกิน  มะเดื่อฝรั่ง ได้ ถือ เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพเลย

ผู้อ่าน ลองเลือกดูว่าจะปลูกอะไร  ทำน้อยๆ ค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้ไปครับ


วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

การวางแผน ขายมะนาว ราคาแพง

ต้องขาย ช่วงหลังสงกรานต์ จน ถึง วันที่ 15 พฤษภาคม  ของทุกปี

ในปี 2560 นี้ กว่า ราคา มะนาวจะพุ่ง ก็ วันที่ 7 พฤษภาคม  ไปแล้ว

คือ ราคา พุ่งจาก ผลละ 3 บาท ไปเป็น 4.50 บาท เลยทีเดียวครับ

ลองดู ตามภาพ  คลิกที่ภาพ ด้านล่าง น่ะครับ 





ส่วนเดือน ที่ ราคา มะนาวแพงที่สุด คือ เดือน พฤษภาคม ไม่ใช่ เมษายน น่ะครับ


ดูภาพ ให้  คลิกที่ภาพ 





ดังนั้นมะนาว ควรออกดอกอย่างช้า ช่วงปีใหม่ ครับ  ราวๆ 15 ธันวาคม ถึง 1 มกราคม

แสดงว่า ผม อดน้ำ มะนาว 15 พฤษศจิกายน ถึง 14 ธันวาคม ประมาณนี้

ย้อนหลังไป 2 เดือน แสดง ว่า ผมตัด ปลายกิ่ง ทุกกิ่งประมาณ 15 กันยายน

ถอยไป อีก 1 เดือน ผมต้องกวาดล้างโรคแคงเกอร์ และ เชื้อรา ให้หมดไป

แสดงว่า เดือน สิงหาคม  ผมต้องจัดการให้เสร็จ ดังนั้น แผนงาน คือดังนี้

แพคโคบิวทาโซล 



แผนงานทำมะนาวนอกฤดู


  1. สิงหาคม กวาดล้างโรคแคงเกอร์ + เชื้อรา
  2. ปรับปรุงดิน ช่วง ต้นเดือนกันยายน
  3. ตัดปลายกิ่ง ทุกกิ่ง ยาว 2 cm ราวๆ   15 กันยายน 
  4. ให้ปุ๋ยโยกหน้า ทางดิน ครั้งแรก  17 กันยายน ต่อไป ทุก 7 วัน 
  5. คุมยอดอ่อน ด้วยยาฆ่าแม สูตร 1-4-8-15
  6. พ่น แพคโคบิวทาโซล 400 ppm ทางใบ ราวๆ  1  ตุลาคม
  7. เสริมธาตุอาหารทางใบครั้ง ที่ 1 ราว 20  กันยายน 
  8.  อดน้ำมะนาว 15 พฤษศจิกายน ถึง 14 ธันวาคม หากมี ฝนตกให้ปุ๋ย นูแทค เอ็กตร้า พี
  9.  15 พฤษศจิกายน งดให้ ปุ๋ยโยกหน้า ให้ปุ๋ยโยกหลังทางใบแทน ทุก 10 วัน
  10. รอใบมะนาว เริ่มห่อตัว ขาดน้ำเล็กน้อย ราว ๆ 20-25  ธันวาคม
  11. เปิกตาดอก ด้วยน้ำ และ ปุ๋ย 13-0-46 และน้ำ ราวๆ 12 -19  ธันวาคม
  12. มะนาว ทยอย ออกดอก  ราวๆ 15 ธันวาคม ถึง 1 มกราคม  น้ำ ปุ๋ยไม่ขาด พ่นหมอกน้ำ ลดความร้อน ช่วงสายๆ  ทุกวัน จนติดผล
  13. มะนาว เริ่มติดผล 1-10 มกราคม เริ่มให้ ปุ๋ยโยกหน้า + น้ำ เพิ่ม 20% จากปกติ
  14. กวาดล้าง เพลี้ยไฟ ไรแดง หนอน ช่วง 7-18 มกราคม 
  15. กวาดล้างโรคแคงเกอร์ + เชื้อรา ราวๆ  20-31 มกราคม
  16. พ่น จิบแอซิด 20 ppm ช่วง 1 ถึง 14 กุมภาพันธ์ เพื่อดึงให้สุกช้า 
  17. ให้ปุ๋ยโยกหน้า+ น้ำอย่าให้ ขาด มะนาวจะเริ่ม แก่ เก็บขายได้ ปลายเมษายน